แยก Network ออกจากกันนั้นได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น การจัดการกลุ่มผู้ใช้ได้ง่าย ประโยชน์ด้านความปลอดภัย และที่สำคัญยังได้ช่วยให้ลด broadcast ลงด้วยทำให้ network มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว Switch และ Hub จะทำหน้าที่ขยายวง LAN ได้แค่วงเดียวเท่านั่น เมื่อเราต่อพ่วง Switch, Hub ออกไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นเพียงแค่ 1 Network หรือ 1 LAN
โดยทั่วไปการแบ่ง network ออกจากกันแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าความต้องการของคนเราไม่มีที่สิ้นสุด 555 เพราะข้อจำกัดด้านบนนั้น ต้องแยกอุปกรณ์จริงๆออกจากกันชัดเจน ทำให้ในความเป็นจริงถ้ามี hosts จะต้องอยู่คนละ network กันว่า switch มีอยู่จำกัด แล้วจะแยกจากกันยังไง หรือที่ต้องแบ่ง network ออกไปนั้น ต้องการแค่ port lan ไม่กี่ช่องเท่านั้น ก็จะทำให้เหลือ port ที่ไม่ได้ใช้เหล่านั้นเสียไปเปล่าๆ ทำให้ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ และอีกอย่างปัญหาด้านการจัดการถ้าต้องการก็ต้องไปจัดการที่ตัวอุปกรณ์นั้นจริงๆ เป็นต้น
VLAN คืออะไร
V = Virtual หรือเสมือนนั่นเอง แต่ทำไหมถึงต้องมี Virtual ขออธิบายด้วยภาพให้เข้าใจง่ายๆโดยทั่วไปแล้ว Switch และ Hub จะทำหน้าที่ขยายวง LAN ได้แค่วงเดียวเท่านั่น เมื่อเราต่อพ่วง Switch, Hub ออกไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นเพียงแค่ 1 Network หรือ 1 LAN
1 LAN
ปัญหาก็คือ พอเราต่อกันจนมีจำนวน hosts มากขึ้น ก็จะเกิด Broadcast จำนวนมากขึ้นตามไปด้วย เหมือนกันคนจำนวนมากอยู่ในห้องเดียวกันแล้วตะโกนคุนกันท่ามกลางความโกลาหลอะไรแบบนั้น
ทีนี้เพื่อที่จะแก้ปัญหา Broadcast นั้น เราต้องแบ่ง network ออกจากกัน โดยมี Router คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลาง โดยจะทำหน้าที่ Forward ข้ามไปมาระหว่าง network
ทีนี้เพื่อที่จะแก้ปัญหา Broadcast นั้น เราต้องแบ่ง network ออกจากกัน โดยมี Router คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลาง โดยจะทำหน้าที่ Forward ข้ามไปมาระหว่าง network
Real 2 LAN without VLAN
พอเราแย่ง Network ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว แก้ปัญหา Broadcast ได้แล้ว ภาพที่เห็นแบบนี้คือแยกการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Network ออกจากกัน"จริงๆ" ถ้ามีการเพิ่มวง LAN เข้าไปอีก ก็ต้องมีอุปกรณ์จริงๆ มารองรับ
- Router ก็ต้องมี Interface (Port) จริงๆ มารองรับ สำหรับ LAN วงนั้น
- Router ก็ต้องมี Interface (Port) จริงๆ มารองรับ สำหรับ LAN วงนั้น
- Switch ก็ต้องแยกจากกันจริงๆ คนละวง LAN ใช้ร่วมกันไม่ได้
จะเห็นว่าการใช้งานแบบนี้ เราไม่ต้องมีสนใจเรื่อง VLAN เลย อุปกรณ์ Switch/Hub ทั่วไปๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่ว่าต้องต่อแยกจากกันไปเลยนะครับ
โดยทั่วไปการแบ่ง network ออกจากกันแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าความต้องการของคนเราไม่มีที่สิ้นสุด 555 เพราะข้อจำกัดด้านบนนั้น ต้องแยกอุปกรณ์จริงๆออกจากกันชัดเจน ทำให้ในความเป็นจริงถ้ามี hosts จะต้องอยู่คนละ network กันว่า switch มีอยู่จำกัด แล้วจะแยกจากกันยังไง หรือที่ต้องแบ่ง network ออกไปนั้น ต้องการแค่ port lan ไม่กี่ช่องเท่านั้น ก็จะทำให้เหลือ port ที่ไม่ได้ใช้เหล่านั้นเสียไปเปล่าๆ ทำให้ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ และอีกอย่างปัญหาด้านการจัดการถ้าต้องการก็ต้องไปจัดการที่ตัวอุปกรณ์นั้นจริงๆ เป็นต้น
ทำให้เกิดคำว่า V = Virtual หรือเสมือนขั้นมา เป็น VLAN นั่นเอง
แน่นอนครับว่าอุปกรณ์ที่เพิ่มคุณสมบัติ VLAN เข้ามานี้จะไม่ใช่ทุกตัว เพื่อแบ่งเกรดขายตามราคานั่นเอง
โดย VLAN ยังมีหลาย Protocol อีก ที่รู้จักกันส่วนใหญ่ก็จะเป็น VTP ของ Cisco ซึ่งไม่ใช่มาตรฐานกลางแต่คือเทคโนโลยีเฉพาะยี่ห้อของเราเอง แต่ว่าเนื่องจากมีการใช้อย่างแพร่หลายคนเลยนิยมมากกว่า และเมื่อมีการพูดถึง VLAN ก็จะเอาคำนิยามของ Cisco มาอธิบายมากกว่า เช่นคำว่า Trunk เป็นต้น
อีก Protocol หนึ่งซึ่งเป็นมาตรฐานคือ IEEE 802.1Q ซึ่ง OpenWrt เองก็ใช้ตัวนี้ ซึ่งคือขั้นตอนที่ผมจะนำมาทำเป็นตัวอย่างผ่าน web GUI ของ OpenWrt ให้ดูอีกนะครับ
add Virtual Interfaces
add SSID name
โดย VLAN ยังมีหลาย Protocol อีก ที่รู้จักกันส่วนใหญ่ก็จะเป็น VTP ของ Cisco ซึ่งไม่ใช่มาตรฐานกลางแต่คือเทคโนโลยีเฉพาะยี่ห้อของเราเอง แต่ว่าเนื่องจากมีการใช้อย่างแพร่หลายคนเลยนิยมมากกว่า และเมื่อมีการพูดถึง VLAN ก็จะเอาคำนิยามของ Cisco มาอธิบายมากกว่า เช่นคำว่า Trunk เป็นต้น
อีก Protocol หนึ่งซึ่งเป็นมาตรฐานคือ IEEE 802.1Q ซึ่ง OpenWrt เองก็ใช้ตัวนี้ ซึ่งคือขั้นตอนที่ผมจะนำมาทำเป็นตัวอย่างผ่าน web GUI ของ OpenWrt ให้ดูอีกนะครับ
add Virtual Interfaces
add SSID name
Test Connect wifi from AP01
DHCP Status on RT01
JAMBAI CASINO, SITUS JUDI SLOT, MIZEN JUDI SLOT
ตอบลบJAMBAI CASINO SITUS JUDI SLOT, MIZEN JUDI SLOT, MIZEN 양주 출장샵 JUDI 춘천 출장안마 SLOT, MIZEN JUDI 아산 출장안마 SLOT, SLOT, MIZEN JUDI SLOT, 부산광역 출장안마 MIZEN JUDI SLOT, MIZEN JUDI 삼척 출장샵 SLOT